ภูกระดึงเป็นสถานที่ยอดฮิตอีกที่หนึ่งของประเทศไทยเลยก็ว่าได้ เพราะเราต้องเดินขึ้นเขาระยะทางกว่า 9 กิโล เพื่อที่จะไปชมและสัมผัส บรรยากาศธรรมชาติแบบสุดๆ บนยอดเขานู้น ภูกระดึงเป็นสถานที่เที่ยวอยู่ในอุทยานแห่งชาติภูกระดึง จังหวัดเลย การเดินทางนั้นก็แสนจะง่ายดาย จะนำรถส่วนตัวมาก็ได้หรือ นั่งรถทัวร์มาก็ได้ เพราะมีรถสองแถวคันสีแดงคอยให้บริการอยู่ตลอดทั้งวัน

 

การนั่งรถทัวร์แนะนำท่านใดเดินทางมาจากกรุงเทพฯ ให้จองรถทัวร์ไว้ก่อนเลยล่วงหน้าเพราะถ้าจองใกล้วันไปรถเต็มแน่นอน เพราะนักท่องเที่ยวจะเยอะมาก จะมีจุดลงรถทัวร์ที่ผานกเค้าหรือร้านเจ้กิมนั้นเอง โดยที่ร้านเจกิมนี้ด้านหลังร้านจะมีที่นั่งสำหรับพักผ่อน หรือรับประทานอาหารก็ได้ เพื่อรอรถสองแถวพาเข้าไปในอุทยานแห่งชาติภูกระดึง ในบทความนี้จะรีวิวเที่ยวภูกระดึง 1 คืน 2 วัน แบบหนาวสุดๆ อุณหภูมิที่วัดได้ตอนเช้า 6 องศา

ภูเขาที่ขึ้นชื่อผานกเค้า
โดยการนั่งรถสองแถวคันสีแดงจะจอดรออยู่ตรงร้านเจ้กิมเลย คนเต็มรถ 10 คนออก หรือคนละ 30 บาท แต่ถ้าอยากไปไวไว หรือคนน้อยๆ ก็สามารถเหมารถสองแถวเข้าอุทยานได้เลย 300 บาท
เมื่อเข้ามาในอุทยานแล้วเราก็ทำการจองเต็นท์สำหรับนอนและพื้นที่สำหรับนอน ก็จะมีนักท่องเที่ยวมากมายต่อคิวจองเต้นท์กันเต็มเลย
ก่อนขึ้นภูกระดึงถ้าเราสัมภาระเยอะอยากจะจ้างลูกหาบละก็ก็สามารถมาจ้างลูกหาบแบกขึ้นไปได้ ลูกหาบจะรอรับของเราอยู่ตรงศาลาก่อนขึ้นภูกระดึงโดยจะคิดค่าแบกของกิโลกรัมละ 30 บาทนั้นเอง
สถานที่รับ-ส่งสัมภาระ จ้างลูกหาบภูกระดึง
เมื่อจ้างลูกหาบเสร็จเรียบร้อยก็ทำการเดินขึ้นภูกระดึงกันเลย โดยเส้นทางจะเป็นการเดินขึ้นภูเขายาวประมาณ 5 กิโล สองข้างทางจะเป็นวิวและต้นไม้นานาชนิดรวมถึงนกหลากหลายสายพันธุ์ให้เราได้เดินชมกันด้วย

 

อ่อระหว่างเดินขึ้นภูเขาก่อนถึงหลังแปจะมีจุดพักที่มีชื่อซำแต่ละ ซำแตกต่างกันไปโดยแต่ละซำจะมีจุดร้านค้า ร้านอาหาร ให้เราได้แวะกินแวะซื้อของฝากเป็นที่ละลึกอีกด้วย
และที่เด็ดกว่านั้นเราจะเห็นลูกหาบแบกของหนักๆ  ขึ้นภูเขาอยู่ตลอดทาง ไม่ว่าจะเป็นน้ำดื่ม ของกิน ที่เราจะต้องไปซื้อกินบนที่พักนั้นละไม่รู้แบกขึ้นไปได้ยังไงตั้งหลายกิโล ถือว่าเป็นภาพที่น่าประทับใจเป็นอย่างมาก
ลูกหาบแบกของหนักๆ ของภูกระดึง
เมื่อเดินมาได้ประมาณ 4 กิโลเมตร ก่อนขึ้นหลังแป เราจะพบกับทางขึ้นสุดหินที่เป็นผาสูงชันต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก
ขึ้นมาถึงหลังแปแล้วใช้เวลาเดินขึ้นมาประมาณ 4 ช.ม.ได้ ตรงนี้วิวดีมาก จะนักท่องเที่ยวที่เพิ่งขึ้นมาถึงหรือนักท่องเที่ยวที่กำลังจะลงกลับไป จะแวะถ่ายรูปกันตรงนี้มากมาย
เรายังไม่ถึงที่พักกันนะครับ ต้องเดินจากหลังแปไปจุดพักแรมวังกวางอีกมาณ 3 กิโล โดยระหว่างทางจะเป็นต้นสนสะเป็นส่วนใหญ่ ถ้าขึ้นมาช่วงหน้านาวจะเห็นต้นสนสีเขียวตลอดทางเต็มไปหมดซึ่งเห็นแล้วสบายตามากเลยทีเดียว
เดินมาเรื่อยๆก็ถึงจุดพักแรมวังกวางแล้ว เดินขึ้นมาตั้งแต่ 7 โมงเช้า มาถึงจุดพักแรมวังกวางก็ประมาณ 13.30 ได้ เมื่อมาถึงเราก็ทำการเช่าผ้าห่ม หมอนเอาไว้สำหรับนอนกันได้ที่ศูณย์บริการเลย แล้วทำการสำรวจเต็นท์ของเราให้เรียบร้อย รวมถึงเช็คของสัมภาระจากลูกหาบของเราอีกด้วย
เมื่อจัดเต็นท์เสร็จเรียบร้อยก็นอนพักสักพักเพื่อชาร์ตแบตเก็บแรงเอาไว้ไปดูพระอาทิตย์ตกที่ผาหมากดูกกันต่อ ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ที่ 15.15 น. เราก็ออกเดินทางจากจุดพักแรมวังกวางเดินไปผาหมากดูกต้องเดินท้าวไปผาหมากดูกประมาณ 2 กิโลเมตร โดยเส้นทางจะอยู่ด้านหลังบ้านพักของอุทยานภูกระดึง ทางจะเป็นทางตรง มีวิวธรรมชาติสวยงามให้ถ่ายรูปกันด้วย
เดินมาถึงผาหมากดูกก็เกือบจะ 5 โมงแล้ว พระอาทิตย์อยู่ใกล้ภูเขาพอดี ต้องบอกก่อนว่าพระอาทิตย์จะตกไวมากช่วงหน้าหนาว เราต้องเดินมาถึงก่อน 5 โมงให้ได้ ผาหมากดูกจะเป็นหน้าผาสูง มีวิวธรรมชาติ ป่าเขา ที่สวยงาม และยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามอีกด้วย

 

จุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่ผาหมากดูก
ต้องยอมรับว่าช่วงหน้าหนาวบนภูกระดึงหนาวมากแถมลมแรงสุดๆ ต้องใส่เสื้อกันหนาวแบบมิดชิดรวมถึงใส่หมวกกันหนาวด้วยนะครับ เมื่อชมพระอาทิตย์ตกดินเสร็จก็ทำการเดินกลับที่พัก แม้ทางเดินตอนกลางคืนจะมืดก็ไม่ต้องกลัวไปเพราะมีนักท่องเที่ยวเดินกลับด้วยเยอะแยะ แต่ว่าเราควรพกไฟฉายไปด้วยจะดีที่สุด
มาถึงที่พักทำการนั่งพักให้หายเหนื่อ แล้วก็ไปกินหมูกระทะ ที่ขึ้นชื่อของภูกระดึงนี้ โดยร้านหมู่กระทะจะมีหลายร้านมากมายคอยให้บริการ ราคาชุดใหญ่ก็ 500 บาท อิ่มแน่นอนไม่ต้องกลัวหิว
เมื่อรับประทานเสร็จแล้วก็ทำธุระส่วนตัว อาบน้ำ หรือใครจะไม่อาบก็ได้ อิอิ เข้าเต็นท์นอน รอเวลาพรุ้งนี้เช้าไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่น
เวลา 04.30 น. จะได้ยินเสียงเจ้าหน้าที่ของอุทยานประกาศดังๆ ใครจะไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่นให้เตรียมตัวให้พร้อม เวลาเริ่มเดินทาง 05.00 น. เมื่อได้เวลาเดินทางจะมีเจ้าหน้าที่นำทางไปตามเส้นทางที่มืดมิดรวมถึงอากาศตอนเช้าที่หนาวเย็นสุดๆ แบบหนาวจนจะร้องไห้ แต่เพื่อรูปถ่ายที่สวยงามเราต้องไปให้ได้ ระยะทางประมาณ 1.8 กิโลเมตร
เดินมาถึงผานกแอ่นแล้ว อากาศจะหนาว ดาวเต็มท้องฟ้า วิวดีสุดๆ เราก็ทำการจับจองที่นั่ง เพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้น ใช้เวลาไม่นานพระอาทิตย์ใกล้จะขึ้นแล้ว ต้องทำการถ่ายรูปรั่วๆ เพราะพระอาทิตย์ขึ้นไวมาก
พระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่น
 
ชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอนเสร็จแล้ว เราก็เดินทางกลับจุดที่พัก เพื่ออาบน้ำ ทำธุระส่วนตัวให้เสร็จ รวมถึงหาของกินตอนเช้าด้วย โดยตอนเช้าๆ จะมีรายการอาหารเช่น น้ำเต้าฮู้ ปาท่องโก๋ หรือโจ๊กร้อนๆ ก็อร่อยเมื่อทานเสร็จแล้วก็เดินทางไปตามหาใบเมเปิ้ลแดงกันต่อที่น้ำตกถ้ำใหญ่ ใช้เวลาเดินท้าวประมาณ 1.2 กิโลเมตร
มาถึงน้ำตกถ้ำใหญ่แล้ว แต่ไม่มีน้ำตกสะงั้น แต่เราจะเจอใบเมเปิ้ลสีแดงสดร่วงเต็มพื้นเลยเราสามารถถ่ายรูปกับใบเมเปิ้ลสีแดงสวยๆ ได้เลย
ได้เวลากลับแล้วแต่ไม่อยากกลับเลย แต่ด้วยเวลาที่จำกัดเลยต้องกลับ เลยไม่ได้ไปที่ไกลๆ แถวผาหล่มสักเลย เอาไว้โอกาศหน้า จะมารีวิวที่เที่ยวภูกระดึงที่ใหม่นะครับ เพราะบนภูกระดึงมี่ที่เที่ยวเยอะมากๆ
สิ่งที่จำเป็นสำหรับการเดินทางมาเที่ยวภูกระดึง
  • รองเท้าเดินป่า หรือรองเท้าผ้าใบหนาๆ
  • ไฟฉาย ยารักษาโรค เช่น ยาแก้แพ้ ยาแก้ปวด
  • เสื้อกันหนาว ขาดไม่ได้เลย ตอนกลางคืนเย็นจับใจ

 

ข้อมูลการติดต่อ

สถานที่ติดต่ออุทยานแห่งชาติภูกระดึง โทรศัพท์ : 042-810833 จองบ้านพัก : 042-810834